Last updated: 10 ก.พ. 2564 | 4662 จำนวนผู้เข้าชม |
ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรค NCDs หรือโรคในผู้สูงอายุที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง หากติดเชื้อ COVID-19 จะทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการรุนแรงมากกว่าปกติ
กลุ่มโรค NCDs (Non-Communicable diseases) หรือ ชื่อภาษาไทยเรียกว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นั้นเป็นชื่อเรียก กลุ่มโรคที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่สามารถติดต่อผู้สูงอายุได้ผ่านการสัมผัส คลุกคลี หรือ ติดต่อ ผ่านตัวนำโรค (พาหะ) หรือสารคัดหลั่งต่างๆ หากแต่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ภายในร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ
กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases) หรือ NCDs หากติด COVID-19 แล้วเสี่ยงมีอาการรุนแรง ได้แก่
1.โรคเบาหวาน ในผู้สูงอายุ
2.โรคความดันโลหิตสูง ในผู้สูงอายุ
3.โรคหลอดเลือดสมอง ในผู้สูงอายุ
4.โรคหัวใจ ในผู้สูงอายุ
5.โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ในผู้สูงอายุ
6.โรคไตวายเรื้อรัง ในผู้สูงอายุ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายว่า คนที่เป็นโรคที่ต้องดูแลผู้สูงอายุเป็นพิเศษ คือ ผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยเบาหวาน ต้องควบคุมน้ำตาลดีๆ แต่คนจำนวนไม่น้อยเมื่อผู้สูงอายุเป็นเบาหวานแล้วจะมีความเปลี่ยนแปลงในหลอดเลือด มีโอกาสทำให้ภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุไปจัดการกับเชื้อไวรัสโควิดได้น้อยลง ยังไม่นับรวมไปถึงอวัยวะต่าง ๆ ที่ศักยภาพในการทำหน้าที่ลดลงของผู้สูงอายุไปด้วย
“สังเกตจากผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานนานๆ หรือเป็นขั้นหนัก จะพบว่า ปอดทำงานได้น้อยลง ตับผู้สูงอายุทำงานได้น้อยลง เป็นต้อกระจก สิ่งเหล่านี้จะถูกทำลายจากเชื้อไวรัสบ้างบางส่วน นอกจากนี้ ในกรณีที่ติดเชื้อโควิด-19 รุนแรง ไม่เพียงทำลายปอดผู้สูงอายุ แต่มีจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตเพราะอาการไตวาย เลือดไม่ไปเลี้ยงแขนขา เพราะความรุนแรงของไวรัส ไปกระทบกับอวัยวะอื่นด้วย ไม่เพียงปอดอย่างเดียว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวอื่นร่วม เมื่อเจอเชื้อไวรัสจะยิ่งทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
กลุ่มโรค NCDs สามารถป้องกันได้ เพราะสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงหลักนั้น เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้สูงอายุตัวเรานั่นเอง นั่นคือ
1.รับประทานอาหารหวานมันเค็มจัด
2.ขาดการออกกำลังกาย
3.ความเครียด
4.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5.การสูบบุหรี่
ซึ่งหากผู้สูงอายุสามารถลด หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นการลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นกลุ่มโรค NCDs ได้ มากถึง 80% เลยทีเดียว แน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา รณรงค์ให้ทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs โดยรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เลี่ยง หวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดปัจจัยเสี่ยงอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่
ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า จากนี้เป็นต้นไป อะไรที่ทำให้สุขภาพแย่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ต้องรอให้เกิดโรค หรือติดเชื้อแล้วจึงมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม นอกจากนี้ ยังต้องหมั่นศึกษาองค์ความรู้ของเชื้อไวรัสเพื่อให้รู้เท่าทันโรค หรือวิธีรับมือเมื่อเกิดการระบาดขึ้น เพื่อการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตั้งแต่เริ่มต้น
สิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คือ สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ปกปิดข้อมูล และสแกนไทยชนะ นอกจากจะช่วยป้องกัน COVID-19 แล้ว ยังช่วยป้องกันโรคอื่น ๆ อีกด้วย
11 พ.ย. 2563
7 ต.ค. 2563
27 ก.ย. 2563