บ้านพักคนชราระยะยาว

สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือสังคมคนชราในอนาคต อาจเรียกได้ว่าเป็นข่าวดีของผู้ป่วยคนชราและบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ตอนเหนือของประเทศไทยที่จะได้มีบ้านพักคนชรา และศูนย์สุขภาพคนชราไว้เป็นสถานที่พักพิงยามไม่สบาย

เราจะรู้กันดีว่า ในอนาคต หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกและประเทศไทยจะต้องเข้าสู่สังคมการมีคนชราจำนวนมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งหมายถึง การมีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านเศรษฐกิจ สังคม การแพทย์ และการสาธารณสุข ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างรอบคอบพร้อมเพรียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาศัยอยู่แถบภาคเหนือที่จะได้มีศูนย์ดูแลสุขภาพคนชราไว้เป็นสถานที่พักพิงยามป่วยไข้ ขณะเดียวกันบ้านพักคนชรา แห่งนี้ยังสามารถใช้เป็นสถานที่ค้นคว้าวิจัยความรู้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับคนชรา ทั้งด้านการรักษา และการดูแล โดย มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้ก่อสร้างอาคารสำหรับคนชราในพื้นที่ 66 ไร่ เพื่อรองรับสังคมคนชราในปัจจุบันและอนาคต สามารถดูแลสุขภาพแบบครบวงจร หนุนยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งล่าสุดในปี พ.ศ. 2557 พบสถิติผู้ป่วยสูงอายุในภาคเหนือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 5 แสนราย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ ระบุว่าคนชราอายุ 55 ปี ขึ้นไป เข้ารับการรักษาจำนวนประมาณกว่า 5 แสนคน และเป็นผู้ป่วยชราภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จำนวนกว่า 479 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคกระดูกและข้อ เป็นต้น นับเป็นปัญหาสำคัญของโรงพยาบาลซึ่งต้องใช้งบประมาณในการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ปีละกว่าหนึ่งพันล้านบาท ซึ่งสิ่งนี้ทำให้กระทบต่อ เศรษฐกิจ และสังคมในอนาคตได้



 

ทางรัฐบาลจึงได้จัดสร้างบ้านพักคนชราสำหรับอนาคต ขึ้นที่ บริเวณหมู่บ้านท่าใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายการบริการระหว่างโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และศูนย์เวชศาสตร์คนชรา ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งการรักษาพยาบาล เพิ่มคุณภาพชีวิตของคนชรา ทั้งด้านร่างกาย สังคมและจิตใจ และในขณะเดียวกันยังสามารถแบ่งเบาภาระของบุตรหลานของคนชราได้ส่วนหนึ่ง และยังเป็นแหล่งค้นคว้าด้านงานวิจัยเพื่อการพัฒนาและดูแลคนชราในอนาคตให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. ระบุว่าในครั้งนี้ ใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างเฉพาะตัวตึกประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นตึกขนาด 4 ชั้น ประกอบด้วยชั้นที่ 1 ห้องสันทนาการ ห้องกายภาพบำบัด ห้องตรวจสุขภาพ ห้องรับประทานอาหาร, ชั้นที่ 2 ห้องพักรวม จำนวน 26 เตียง, ชั้นที่ 3 ห้องพักเดี่ยว จำนวน 12 ห้อง และ ชั้นที่ 4 ห้องพักเดี่ยว จำนวน 12 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยภายในตึกประมาณ 4,000 ตารางเมตร ซึ่งได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา